ทัวร์เวียดนาม โฮจิมินห์ – มุยเน่ – ดาลัด – นั่งรถจิ๊ฟขึ้นเขาลังเบียง
โฮจิมินห์ – มุยเน่ – ทะเลทรายขาว – ทะเลทรายแดง
ท่าเรือ – ลำธารนางฟ้า(Fairy stream) – ดาลัด – รถราง น้ำตกดาตันลา
โบสถ์สีชมพู (Domaine de Marie Church) – ตลาดไนต์ ดาลัด
Crazy house – พระราชวัง Bao Dai – นั่งกระเช้าชมเมืองดาลัด
วัด Truc Lam – สวนดอกไม้เมืองหนาว – เขาลังเบียง
พิพิธภัณฑ์สงคราม – ทำเนียบเอกภาพ – ล่องเรือแม่น้ำไซ่ง่อน
อุโมงค์กุจี – โบสถ์นอร์ทเทอดาม – ไปรษณีย์กลาง – ตลาดเบ๋นถั่น
(พักโรงแรม เมืองมุยเน่ 1 คืน ,เมืองดาลัด 2 คืน และ นครโฮจิมินห์ 1 คืน)
วันแรก : โฮจิมินห์ – มุยเน่ – ทะเลทรายขาว – ทะเลทรายแดง
เช้า : เจ้าหน้าที่ต้อนรับคณะ ฯ ที่สนามบินนานาชาติ Tan Son Nhat นครโฮจิมินห์ (เที่ยวบินที่ FD650 07.45 – 09.15 น.) นำท่านเดินทาง สู่ นครโฮจิมินห์ หรือชื่อเดิม ไซ่ง่อน เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเวียดนาม นำท่านเดินทางสู่ เมืองมุยเน่ (Mui Ne) ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลของมณฑลบิ่ญถ่วน (Binh Thuan) ในภูมิภาคภาคกลางตอนใต้ ของประเทศเวียดนาม ใช้เวลาเดินทางสู่เมืองมุยเน่ประมาณ 3- 4 ชั่วโมง เมืองแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของชายหาดทอดยาว สวยงาม และเงียบสงบ บริเวณชายหาดยาวประมาณ 10 กิโลเมตร ร่มรื่นไปด้วยต้นมะพร้าวริมชายหาดมากมาย ชาวบ้านยังคงมีวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย มีอาชีพหลักคือการทำประมง ภาพของเรือหาปลาที่ออกล่องลอยไปกลางทะเลในรุ่งสาง และกลับมายังฝั่งในยามเย็น เป็นภาพที่ปรากฏที่นี่ทุกวัน ทำให้ชายทะเลมุยเน่มีบรรยากาศผ่อนคลาย น่าพักผ่อน ที่แห่งนี้จึงกลายเป็นสถานที่พักตากอากาศในฝันของนักท่องเที่ยวทุกคน
เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน นำท่านชม ทะเลทรายขาว ทะเลทรายที่ได้รับสมญานามว่าเป็น ซาฮาร่าแห่งเวียดนาม เป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม เม็ดทรายขาวละเอียดราวกับว่าได้ไปซาฮาร่า ไม่ไกลกันมีแหล่งน้ำจืด (โอเอซิส) สำหรับให้นักท่องเที่ยวใช้พักผ่อน ถ่ายรูป และชมวิว ให้ท่านจะได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมนั่งรถจี๊ปชมทะเลทราย ด้วยคนขับรถผู้เชียวชาญ (ราคาทัวร์ยังไม่รวมค่ารถจี๊ป) จากนั้นนำท่านชม ทะเลทรายแดง ซึ่งอยู่ใกล้ ชายทะเล ทำให้ มองเห็นเป็นสีแดง เราจะได้เห็นความงดงามของเนินทรายที่เปลี่ยนรูปร่างไปตามแรงลม ไปแต่ละครั้ง เราก็จะเห็นภาพแตกต่างจากเดิม ผ่านชม หมู่บ้านชาวประมง จะได้เห็นวิถีชีวิตชาวประมงแบบดั้งเดิม กับเรือประมงที่เรียงรายอยู่นับร้อย กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาที่อบอวนไปด้วยบรรยากาศแบบชาวประมงเวียดนามแท้ๆ ซึ่งกลับเข้าฝั่งหลังออกหาปลาในยามเย็น
ค่ำ : บริการอาหารเย็นที่ ภัตตาคาร
พักผ่อนกันตามสบาย… (พัก โรงแรม มุยเน่)
วันที่สอง : ท่าเรือ – ลำธารนางฟ้า(Fairy stream) – ดาลัด – รถราง น้ำตกดาตันลา – โบสถ์สีชมพู (Domaine de Marie Church) – ตลาดไนต์ ดาลัด
06.00 น. : บริการอาหารเช้า นำท่านชม หมู่บ้านชาวประมงมุยเน่ (Mui Ne Fish Village) กันก่อน เราจะได้เห็นเรือประมงจำนวนมากมาจอดเทียบริมอ่าว โดยที่มีกะละมังหลากสีเก็บอุปกรณ์ประมง และอาหารทะเลที่จับมาได้วางเรียงรายทั่วหาด นอกจากจะได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวประมงแล้ว ก็ยังได้ถ่ายภาพสวยๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของมุยเน่ นำท่านสู่ ลำธารนางฟ้า (Fairy Stream) หรือแกรนด์แคนยอนแห่งเวียดนาม ซึ่งจากภูเขาหินทรายขนาดใหญ่ ถูกกัดเซาะของน้ำมานานวัน จนเป็นร่องกว้างกว่า 20 เมตร มีชั้นหิน ชั้นทรายสีสันสวยงามที่สวยงามคล้ายๆกับแพะเมืองผีของประเทศไทย และมีลำธารเล็กๆระดับน้ำประมาณข้อเท้า ซึ่งพัดพาตะกอนทรายสีแดงไหลออกไปสู่ทะเล (เนื่องจากต้องเดินทางเปล่าผ่านลำธารนี้เพื่อชมบรรยากาศ ดังนั้นท่านควรเลือกสวมใส่รองเท้าที่สะดวกแก่การเดิน) จากนั้น เมืองดาลัด (Da Lat) ชื่อ ดาลัด มาจากคำ 2 คำ คือ ดา หมายถึงแหล่งกำเนิดหรือแม่น้ำกามลี ส่วนคำว่า ลัด เป็นชื่อของชนกลุ่มน้อยเผ่าหนึ่งที่อยู่อาศัยอยู่ที่นี่ ดาลัดเป็นเมืองเล็กๆตั้งอยู่บนที่ราบสูงทางภาคใต้ของเวียดนาม ในอดีตเป็นเพียงดินแดนห่างไกลความเจริญที่ชาวบ้านอยู่กันอย่างสงบ ที่ไม่มีความเจริญของเมืองใหญ่กล้ำกราย แต่แล้วเมืองในหุบเขาเล็กๆ ก็ต้องเริ่มเปิดเผยความบริสุทธิ์ให้คนภายนอกได้ประจักษ์ เมื่อชนชั้นปกครองชาวฝรั่งเศสได้เข้ามาสัมผัสแล้วพัฒนาพื้นที่ต่างๆ ขึ้นมาเพื่อการพักผ่อน นำข่าวสารแห่งความงามของดินแดนกลางหุบเขา ไปบอกเล่าให้กับคนจากอีกซีกโลกได้รับรู้ เมื่อพวกเขาหมดภารกิจบนดินแดนอินโดจีน จนดาลัดกลายเป็นเมืองตากอากาศทางภาคใต้เวียดนาม
เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน (อาจจะช้านิดหน่อย)
หลังอาหาร นำท่านสัมผัสประสบการณ์สุดตื่นเต้นโดยการ นั่งรถราง (Roller Coaster) ผ่านผืนป่าอันร่มรื่นเขียวชอุ่มลงสู่หุบเขาเบื้องล่าง เพื่อชมและสัมผัสกับความสวยงามของ น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) (ราคาทัวร์รวมบริการนั่งรถรางแล้ว) อยู่ห่างจากตัวเมืองดาลัดไปทางทิศใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นน้ำตกไม่ใหญ่มากแต่มีความสวยงาม น้ำตกแห่งนี้จะเป็นน้ำตกที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดและไม่ควรพลาดในการมาเที่ยวชม จากนั้นนำท่านชม โบสถ์โดเมนเดมารี (Domaine De Marie Convent) เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก รูปทรงอาคารสวยงามและโดดเด่นด้วยสีชมพูอ่อนๆ และเป็นที่เที่ยวที่นักท่องเที่ยวชอบมาเดินเล่นชมบรรยากาศเงีบบสงบ โบสถ์เวียดนาม แห่งนี้ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1930 ตั้งเเต่ในสมัยที่ฝรั่งเศสยังปกครองเวียดนามในฐานะอาณานิคม ลักษณะของโบสถ์โดเมนเดมารีเป็นการผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมเเบบฝรั่งเศสสมัยศตวรรษที่ 17 กับรูปเเบบของอาคารพื้นบ้านในเวียดนาม ออกมาเป็นโบสถ์ที่ดูภายนอกจะเหมือนกับบ้านพัก สูง 2 ชั้น และโดดเด่นด้วยการทาสีชมพูอ่อนๆเพื่อเป็นการบ่งบอกว่า โบสถ์ เวียดนาม เเห่งนี้เป็นคอนแวนต์ที่มีเเต่เเม่ชีอยู่
ค่ำ : บริการอาหารเย็น ที่ ภัตตาคาร พร้อมไวน์แดงดาลัด นำท่านช้อปปิ้งที่ ถนนคนเดินเมืองดาลัด (ตลาดไนท์) ที่มีทั้งของฝากของที่ระลึก รวมถึงผัก ผลไม้สด มากมาย
พักผ่อนกันตามอัธยาศัย…. (พัก โรงแรมเมืองดาลัด)
วันที่สาม : Crazy house – พระราชวัง Bao Dai – นั่งกระเช้าชมเมืองดาลัด – วัด Truc Lam อาหารเที่ยง – สวนดอกไม้เมืองหนาว – เขาลังเบียง
06.00 น. : บริการอาหารเช้า นำท่านชม Crazy House บ้านประหลาดแห่งดาลัด Crazy House มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า หั่งงา เกสต์เฮ้าส์ (Hang Nga Guesthouse) เป็นผลงานการออกแบบของสถาปนิกหญิงนามว่า ดั่งเหวียตงา ผู้ซึ่งเรียนจบปริญญาเอกจากประเทศรัสเซียและหลงเสน่ห์ของเมืองดาลัด จนมาตั้งรกรากและสร้างเกสต์เฮ้าส์ขึ้นที่นี่ โดยเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1990 ตัวบ้านทั้ง 5 ชั้น มีทั้งโซนป่าไม้ที่เป็นไม้เลื้อยสุดเก๋ โซนใต้ทะเล บางมุมก็ดูเหมือนอวกาศ ทางเดินที่ดูลึกลับตื่นตา น่าขนลุกและน่าตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน ทุกซอกทุกมุมคือความแปลกและแตกต่างที่สรรค์สร้างออกมาอย่างฉลาด กลายเป็นความอาร์ตที่ไม่มีใครเหมือน ปัจจุบันเกสต์เฮ้าส์แห่งนี้ได้รับการชื่นชมอย่างมากจากสื่อต่างชาติ และต่างแนะนำว่าเป็นที่ที่ต้องไปเยือน รวมถึงเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในอาคารที่แปลกที่สุดในโลก โดย Crazy House เปิดรับนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี สามารถเดินชมได้ทั่วพื้นที่ และอิ่มเอมดื่มด่ำกับความเจ๋งที่เหมือนหลุดเข้าไปในโลกแฟนตาซี นำท่านชม พระราชวังฤดูร้อนของจักรพรรดิเบ๋าได่ (Bao Dai Palace) เป็นที่ประทับของจักรพรรดิองค์สุดท้ายของเวียดนาม ซึ่งก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ในปี 2469 ตั้งแต่ครั้งมีพระชนม์เพียง 12 พรรษา เป็นที่ทราบกันดีว่าองค์เบ๋าได่นั้นมักจะใช้เวลาส่วนมากแสวงสำราญจากงานปาร์ตี้ในขณะประทับอยู่ที่เมืองดาลัด โดยพระราชวังฤดูร้อนเบ๋าได่ เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2476 ประกอบด้วยอาคารอิมพีเรียล 3 หลัง โดยส่วนที่เรียกว่า Dinh 3 เป็นจุดที่โด่งดังและมีคนมาเยี่ยมชมมากที่สุด แม้จะผ่านการการบูรณะมาแล้ว แต่ภายในอาคารก็ยังคงมีเครื่องเรือนจำนวนมากที่ถูกทิ้งไว้ในสภาพเดิม โดยส่วนที่เปิดให้ประชาชนเข้ามาเยี่ยมชมได้นั้น ประกอบด้วยบัลลังก์จักรพรรดิ ห้องทรงงาน ห้องบรรทม ห้องอาหาร รวมถึงส่วนที่พักของพระมเหสีด้วย และท่านยังจะได้ชมภาพถ่ายและรูปปั้นของราชวงศ์ที่ถูกจัดแสดงไว้อีกด้วย (พระราชวังไม่อนุญาตให้บันทึกภาพภายในอาคาร)
เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน จากนั้นนำท่าน นั่งกระเช้า ชมวิวเมืองดาลัด เพื่อเข้าไปเที่ยวชม วัดตั๊กลัม เป็นวัดพุทธในนิกายเซน แบบญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนเทือกเขาเฟืองฮว่าง ภายในบริเวณวัดนอกจากจะมีสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม สะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ยังมีการจัดทัศนียภาพโดยรอบด้วยสวนดอกไม้ที่ผลิดอกบานสะพรั่ง นับได้ว่าเป็นวิหารซึ่งเป็นที่นิยมและงดงามที่สุดในดาลัด นำท่านเดินทางสู่ สวนดอกไม้เมืองหนาว (Dalat Flower Gardens) ดาลัดได้รับการขนานนามให้เป็นเมืองดอกไม้ เพราะเมืองแห่งนี้เป็นที่ขึ้นชื่อเรื่องสีสันของดอกไม้อันงดงามหลากหลายสายพันธุ์ อีกทั้งเมืองดาลัดยังมีงานเทศกาลดอกไม้ประจำปีอันลือชื่อ ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งจากในและต่างประเทศ โดยสวนดอกไม้เมืองหนาวซึ่งถูกสร้างขึ้นในปี 2509 นี้ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทะเลสาบซวนเฮืองที่อยู่ใจกลางเมืองดาลัด ที่สวนดอกไม้เมืองหนาว ท่านจะได้พบกับพรรณไม้นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้ต้น และกล้วยไม้ รวมถึงดอกไม้กว่า 300 สายพันธุ์ ที่ผลัดกันเบ่งบานในช่วงเวลาต่างกันไปในรอบปี นั่นทำให้ไม่ว่าจะไปเยือนสวนแห่งนี้ในช่วงเวลาใดก็ตาม ก็ยังสามารถพบกับดอกไม้สวย ๆ ที่เบ่งบานรอต้อนรับอยู่เสมอ และในบางโอกาสเรายังจะหาซื้อดอกไม้สวย ๆ ที่จัดช่อไว้อย่างงดงามได้ที่สวนแห่งนี้อีกด้วย นำท่านเดินทางสู่ ภูเขาลังเบียง (Langbiang Mountain) ตั้งอยู่ภาคตะวันออกของเมืองดาลัด ห่างจากเมืองดาลัด 12 กิโลเมตร ให้ท่านได้นั่งรถจี๊ฟ (คันละ 6 ท่าน) ขึ้นสู่จุดชมวิวบนยอดเขา ด้วยความสูงประมาณ 2,196 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล คุณสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองดาลัดตลอดจนป่าสนและทะเลสาบที่ล้อมรอบได้บนจุดสูงสุดของภูเขา ชมพระอาทิตย์ตก และ วิวอีกด้านหนึ่งของเมืองดาลัด สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางกลับเมือง ดาลัด
ค่ำ : บริการอาหารเย็น ที่ ภัตตาคาร ช้อปปิ้งที่ถนนคนเดินเมืองดาลัด
พักผ่อนกันตามอัธยาศัย…. (พัก โรงแรมเมืองดาลัด)
วันที่สี่ : ดาลัด – โฮจิมินห์ – พิพิธภัณฑ์สงคราม – ทำเนียบเอกภาพ – ล่องเรือแม่น้ำไซ่ง่อน
เช้า : บริการอาหารเช้า นำท่านเดินทางสู่สนามบินดาลัด เพื่อเดินทางสู่ นครโฮจิมินห์
08.25 น. : กลับนครโฮจิมินห์ เที่ยวบิน VN1381(08.25-09.15) จากนั้น นำท่านชม พิพิธภัณฑ์สงคราม (War Remnants Museum) ภายในอาคารของพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเครื่องมือการรบ และอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ในสมัยสงครามเวียดนามมีทั้งของจีน สหรัฐอเมริกา พร้อมภาพถ่ายที่ถ่ายทอดความรู้สึกที่เกี่ยวกับการปกป้องประเทศ การเสียสละเลือดเนื้อของชาวเวียดนามหลายอย่าง ชัดเจน อาทิ ภาพการถูกทรมานด้วยวิธีการต่าง ๆ เป็นต้น ภายนอกตัวอาคารของพิพิธภัณฑ์สงครามมีเครื่องบิน และรถถังรุ่นที่ใช้ในสงครามเวียดนามของ สหรัฐอเมริกาและรัสเซีย จัดวางเรียงรายอยู่โดยรอบบริเวณพิพิธภัณฑ์
เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน นำท่านชม ทำเนียบเอกภาพ ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองโฮจิมินห์ ทำเนียบของอดีตประธานาธิบดี ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ อาคารทันสมัยหลังใหญ่นี้รายรอบด้วยสวนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในบริเวณที่เคยเป็นทำเนียบของผู้ว่าการชาวฝรั่งเศสที่เรียกว่า ทำเนียบนโรดม (Norodom Palace) ซึ่งมีอายุย้อนหลังไปถึงปี พ.ศ. 2411 หลังจากที่ข้อตกลงเจนีวานำจุดจบมาสู่การยึดครองของฝรั่งเศส โงดินห์เดียม ประธานาธิบดีของเวียดนามใต้ได้พำนักอยู่ในทำเนียบแห่งนี้ จากนั้น โรงละครแห่งชาติ (Opera House) โรงละครโอเปร่าเฮ้าส์ ตั้งอยู่บนถนนเลเลย สร้างในปี พ.ศ. 2402 เพื่อใช้แสดงอุปรากร แต่ได้ถูกใช้ให้เป็นสำนักงานใหญ่ของสภาแห่งชาติเวียตนามใต้ แต่ทุกวันนี้ก็ใช้งานเหมือนเดิม ทุกๆ สัปดาห์จะมีการแสดงแตกต่างกันออกไป ช่วงเวลากลางคืนชาวเวียตนามยังมีความเคลื่อนไหวอย่างร่าเริงด้วย โดยเฉพาะบริเวณลานน้ำพุ ที่จะมีชาวเวียตนามและชาวต่างชาติมานั่งพักผ่อนกันทุกคืน และสุดลานน้ำพุมองออกไปจะเป็นที่ตั้งของโรงละคร ที่ชาวเวียตนามออกเสียงว่าโรงละครยาฮาดแถงห์โฝ (Nha hat Thanh Pho) ซึ่งหันหน้าออกถนนดงเค่ย ระหว่างโรงแรมคาราเวลล์และโรงแรมคอนติเนนตัล
ค่ำ : บริการอาหารเย็นบนเรือ พร้อมล่องเรือชมโชว์บนเรือ ดืมด่ำกับบรรยากาศยามราตรีนครโฮจิมินห์ สองฝากฝั่งแม่น้ำไซ่ง่อนท่านเข้าที่พัก
พักผ่อนกันตามอัธยาศัย…. (พัก โรงแรมนครโฮจิมินห์)
วันที่ห้า : อุโมงค์กุจี – โบสถ์นอร์ทเทอดาม – ไปรษณีย์กลาง – ตลาดเบ๋นถั่น – กรุงเทพฯ
06.30 น. : บริการอาหารเช้าที่โรงแรม หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ อำเภอกู่จี อยู่ห่างจากโฮจิมินห์ซิตี้ประมาณ 40 กิโลเมตร อุโมงค์กู๋จี เป็นอุโมงค์ของชาวเวียดในครั้งสมัยสงครามอินโดจีน นำท่านชม อุโมงค์ของชาวเวียดกงที่ขุดขึ้นขนาดพอดีกับตัวในสมัยที่ทำสงครามกับทหารเวียดนามใต้และกองทัพอเมริกัน รวมถึงกองทหารพันธมิตรจากนานาประเทศที่ชาวเวียดนามจะต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้อุโมงค์นี้ ซึ่งในอดีตเคยมีชาวเวียดนามอาศัยอยู่ภายใต้อุโมงค์นี้ถึง 80,000 คน ในระหว่างการเกิดสงคราม และยังเคยใช้เป็นที่บัญชาการทางทหารและเป็นหลุมหลบภัย ซึ่งมีความยาวกว่า 200 กิโลเมตรและอุโมงค์นี้ยังสามารถทะลุออกแม่น้ำไซ่ง่อนได้ด้วย ร้อมชมภาพถ่ายและวีดีโอของเหตุการณ์จริงในช่วงของสงคราม
เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน จากนั้นทำท่านชม โบสถ์นอร์ทเธอดาม ตั้งอยู่บริเวณกลางเมือง บนถนน Han Thuyen ได้รับการก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2420 ใช้ระยะเวลาการสร้าง 6 ปี โบสถ์นี้ไม่มีการประดับด้วยกระจกสีเหมือนโบสถ์คริสต์ที่อื่น เพราะได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สำหรับโบสถ์แห่งนี้ได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในเวียตนาม โดยในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากมาย ลักษณะของตัวโบสถ์เป็นรูปแบบของสมัยอาณานิคม มีหอคอยคู่สี่เหลี่ยมอยู่ด้านบนสูง 40 เมตร เป็นเอกลักษณ์ที่งดงามของโบสถ์แห่งนี้ ด้านหน้าโบสถ์มีรูปปั้นขนาดใหญ่สีขาวเด่นเป็นสง่าของพระแม่มารี นักท่องเที่ยวนิยมเข้ามาชมกันมาก เพราะเป็นเสมือนสัญลักษณ์ร่วม อันหมายถึงการเข้ามาของตะวันตก และเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของโฮจิมินห์ ที่ทำการไปรษณีย์กลาง ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองโฮจิมินห์ ใกล้กับโบสถ์นอร์ทเธอดาม ได้รับการก่อสร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2439 เสร็จในปี พ.ศ. 2444 มีการออกแบบและก่อสร้างในสไตล์ฝรั่งเศสและได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างงดงามด้วยกระจกสี เป็นไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม มีความโอ่โถงและอ่อนช้อยทว่ามั่นคง จนทำให้นักออกแบบมากมายต้องมาศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการออกแบบตกแต่งอาคารแห่งนี้ ภายในตัวอาคารมีการระดับภาพแผนที่ทางทะเลโบราณ และภาพของอดีตผู้นำประเทศโฮจิมินห์ มีการบริการทั้งการส่งจดหมาย แสตมป์เพื่อการสะสม โปสการ์ด โทรศัพท์ระหว่างประเทศ จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งชองฝากของที่ระลึกที่ ตลาดเบนถั่น ตั้งอยู่บนถนนเลเลย (Le Loi) ใกล้ๆ กับจัตุรัสโฮจิมินห์ ได้รับการก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2457 บนพื้นที่ประมาณ 1 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีหอนาฬิกาอยู่ด้านหน้าเป็นสัญลักษณ์ ตลาดแห่งนี้ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งจากคนพื้นเมืองและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะมีสินค้าจำหน่ายมากมายทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า ร้องเท้า นาฬิกา ของที่ระลึก อาหาร เครื่องเทศ ไปจนถึงอาหารสด และดอกไม้ ราคาไม่แพง
หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติ Tan Son Nhat นครโฮจิมินห์
15.00 น. : ออกเดินทางกลับประเทศไทยด้วยความประทับใจ (สายการบินแอร์เอเชีย) เที่ยวบินที่ FD655 (18.00-19.30)
ค่าทัวร์รวม
1. โรงแรงระดับมาตรฐาน (ห้องละ2ท่าน)
2. (B)อาหารเช้า4มื้อ/(L)อาหารกลางวัน5มื้อ/ (D)อาหารเย็น4มื้อร้านอาหารสะอาดดูดี – รวม Buffet
3. รถปรับอากาศสภาพดีนั่งสบาย
4. ไกด์พูดไทยรู้ประวัติฯและบริการคนไทยดี/
5. น้ำดื่มไม่จำกัด
6. ค่าธรรมเนียมต่างๆตามรายการราคา
7. 15 ท่านได้ 1FOC (15+1 FOC)
ค่าทัวร์ไม่รวม
– ค่าใช้จ่ายส่วนตัวหรือค่าใช้จ่ายอื่นที่ไม่ได้ระบุไว้ในโปรแกรม
– Visa
– ประกันการเดินทาง
– ค่าทิปให้ไกด์และคนขับ(มารตฐานเป็นท่านละ 100 บาท / วัน)
– ตั๋วเครื่องบินภายใน (55-90 USD/pax)
อนื่ง
1. สำหรับเด็ก พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน (ห้องนอน 2 คน)
กรณีอายุต่ำกว่า 6 ขวบ จ่าย 75% ของค่าทัวร์
กรณีอายุ 6 ขวบ ถึง 11 ขวบจ่ายเท่ากับค่าทัวร์ผู้ใหญ่
2. สำหรับเด็ก พักกับผู้ปกครอง เสริมเตียง
กรณีอายุต่ำกว่า 6 ขวบ จ่ายเพิ่ม 70% ของค่าทัวร์
กรณีอายุ 6 ขวบ ถึง 11 ขวบ จ่าย 90% ของค่าทัวร์
3. สำหรับเด็ก พักกับผู้ปกครองไม่เสริมเตียง
กรณีอายุต่ำกว่า 6 ขวบ จ่าย 30% ของค่าทัวร์
กรณีอายุ 6 ขวบ ถึง 11 ขวบ จ่าย 50% ของค่าทัวร์
4. จำนวนสมาชิกถือว่าเป็นกรุ๊ปนั้นคือผู้ร่วมเดินทางมีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป
เงื่อนไขและข้อตกลง
– อัตราค่าบริการตั้งแต่วันที่ 01 มกราคม ถึง 28 ธันวาคม 2565 เท่านั้น และเฉพาะตลาดคนไทย ราคาใช้ไม่ได้ในช่วงวันชาติเวียดนาม 02 – 06 กันยายน 2565
– ไม่คืนเงินค่าบัตรเข้าชม ถ้าลูกทัวร์ไม่เข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ยกเว้นกรณีพายุหรือน้ำท่วม
– เมื่อเกิดเหตุเป็นสุดวิสัยจนไม่สามารถแก้ไขได้ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินในทุกกรณี
– การยกเลิก ยกเลิกก่อนเดินทาง 07 วัน (หรือในกรณีบริษัทฯ มัดจำค่าโรงแรมค่ารถต่างๆเรียบร้อย) จะไม่คืนค่ามักจำ
– บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายใดๆในกรณีเกิดเหตุสุดวิสัย เช่น การยกเลิกหรือล่าช้าของสายการบิน/ภัยธรรมชาติ/การจราจล/เหตุการณ์ทางการ เมือง และของสูญหายตามสถานที่ต่างๆซึ่งอยู่เหนือการควบคุมของบริษัทฯ
– โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยบริษัทจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ