ทัวร์เวียดนาม โฮจิมินห์ – อุโมงค์กุจี – เถิยเซิน

โฮจิมินห์ – สักการะเจ้าแม่ทับเทียน – อุโมงค์กุจี – เตียนยาง
เถิยเซิน – ล่องเรือชมสวนผลไม้ – วัดหวินห์ฉ่าง – ล่องเรือแม่น้ำไซ่ง่อน
พิพิธภัณฑ์สงคราม – ทำเนียบเอกภาพ – Opera House
โบสถ์นอร์ทเทอดาม – ที่ทำการไปรษณีย์กลาง – ตลาดเบ๋นถั่น
(พักโรงแรม นครโฮจิมินห์ 2 คืน)

วันแรก : โฮจิมินห์ – สักการะเจ้าแม่ทับเทียน – อุโมงค์กุจี
เช้า : เจ้าหน้าที่ต้อนรับคณะ ฯ ที่สนามบินนานาชาติ Tan Son Nhat นครโฮจิมินห์ (เที่ยวบินที่ FD650 07.45 – 09.15 น.) นำท่านเดินทาง สู่นครโฮจิมินห์ หรือชื่อเดิม ไซ่ง่อน เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนาม งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเวียดนาม นำท่านชม วัดเทียนหาว (Thien Hau Pagoda) หรือ “วัดเจ้าแม่สวรรค์”อยู่ในเขตไชน่าทาวน์ ถือเป็นวัดเก่าแก่อายุเกือบ 300 ปี เลยทีเดียว ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นวัดจีนอันเป็นที่เคารพบูชาของชาวเวียดนามเชื้อสายจีน สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับแม่พระผู้คุ้มครองชาวเรือเปรียบได้กับศาลเจ้าแม่ทับทิมในบ้านเรานั้นเอง ซึ่งนอกจากวัดแห่งนี้จะเป็นที่เคารพนับถือของชาวประมงและผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับทะเลเป็นอย่างมากแล้ว วัดเทียนหาวยังโดดเด่นไปด้วยรูปเคารพเจ้าแม่ทับทิม เทพเจ้ากวนอู และรูปเคารพเทวรูปอื่นๆอีกหลายองค์ และเจดีย์สูงใหญ่แบบจีน

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน  นำท่านเดินทางสู่ อำเภอกู่จี อยู่ห่างจากโฮจิมินห์ซิตี้ประมาณ 40 กิโลเมตร  อุโมงค์กู๋จี เป็นอุโมงค์ของชาวเวียดในครั้งสมัยสงครามอินโดจีน นำท่านชม อุโมงค์ของชาวเวียดกงที่ขุดขึ้นขนาดพอดีกับตัวในสมัยที่ทำสงครามกับทหารเวียดนามใต้และกองทัพอเมริกัน รวมถึงกองทหารพันธมิตรจากนานาประเทศที่ชาวเวียดนามจะต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้อุโมงค์นี้ ซึ่งในอดีตเคยมีชาวเวียดนามอาศัยอยู่ภายใต้อุโมงค์นี้ถึง 80,000 คน ในระหว่างการเกิดสงคราม และยังเคยใช้เป็นที่บัญชาการทางทหารและเป็นหลุมหลบภัย ซึ่งมีความยาวกว่า 200 กิโลเมตรและอุโมงค์นี้ยังสามารถทะลุออกแม่น้ำไซ่ง่อนได้ด้วย ร้อมชมภาพถ่ายและวีดีโอของเหตุการณ์จริงในช่วงของสงคราม

ค่ำ : บริการอาหารเย็นที่ ภัตตาคาร

พักผ่อนกันตามสบาย… (พัก โรงแรมนครโฮจิมินห์)

วันที่สอง : เตียนยาง – เถิยเซิน – ล่องเรือชมสวนผลไม้ – วัดหวินห์ฉ่าง – โฮจิมินห์ – ล่องเรือแม่น้ำไซ่ง่อน
06.00 น. : บริการอาหารเช้า  หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ จังหวัดเตี่ยนยางเป็น 1 ใน 13 จังหวัดที่อยู่บริเวณเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงที่ติดชายทะเล ห่างจาก นครโฮจิมินห์ 70 กิโลเมตร จังหวัดเตี่ยนยางมีเมืองหมีทอเป็นเมืองหลักด้านเศรษฐกิจ การศึกษาและเทคโนโลยี โดยเมืองหมีทอเคยเป็นจังหวัดมาก่อน เมืองหมีเทอ เป็นเมืองหลวงของ จังหวัดเตียงยาง ก่อตั้งในศตวรรษที่ 17 เป็นเมืองท่องเที่ยว มีการท้าการค้ากับกัมพูชามาเป็นเวลานาน เป็นจังหวัดชายฝั่งทะเลสามเหลี่ยมปากแม่น้้าโขง มีพื้นที่ติดทะเลทางด้านตะวันออก บริเวณที่แม่น้้าสาขาของแม่น้้าโขงไหลออกทะเลจีนใต้ เป็นจังหวัดที่ขนานไปกับแม่น้้าโขงทางด้านตอนใต้ของจังหวัดเมืองหมีเทอ เป็นเมืองท่องเทียวทางผ่านต่อไปยังเกิ่นเทอ นำท่านเดินทางสู่ สามเหลี่ยมปากแม่น น้ำโขง หรือ MEKONG DELTA นำท่านเดินทางสู่ท่าเรือ ล่องปากแม่น้้าโขง (เรือลำใหญ่) จากนั้นเปลี่ยนเป็นเรือลำเล็ก (4 ท่าน/ลำ) จากนั้นนำท่านเที่ยวตามเกาะ เกาะแรกที่พวกเราแวะชมก็คือ เกาะยูนิคอร์น (Unicorn island) จุดแรกที่จะ พาทุกท่านไป ก็คือ ฟาร์มเลียงผึ้ง (Bee farm) ชมตัวอย่างผึ้งที่เลี้ยงในฟาร์ม แล้วก็มีสาวน้อยมาเสิร์ฟชาน้ำผึ้งให้ชิม พร้อมทั้งผลิตภัณฑ์จากผึ้งในฟาร์มมาให้เลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน ตามสะดวก ออกจากฟาร์มเลี้ยงผึ้ง นำท่านไปต่อที่ เกาะที่ 2 ให้ท่านได้ชิมผลไม้ท้องถิ่น เสิร์ฟให้จานใหญ่ ทั้งสับปะรด แตงโม ฝรั่ง ละมุด แถมยังมีวงดนตรีท้องถิ่นมาขับกล่อมและร้องเพลงประมาณเพลงลูกทุ่งของเวียดนามใต้ ให้ท่านได้นั่งชิม ผลท้องถิ่นเคล้าเสียงเพลง จากนั้นให้ท่านอิสระช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย สินค้า ที่ทำจากต้นมะพร้าว ให้ท่านแวะชิม ขนมมะพร้าวจากโรงงาน ที่เป็นแหล่งปลูกมะพร้าวที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้จากนั้นนำท่านล่องเรือลำเล็ก (4 ท่าน/ลำ) ลอยล่องไปตามลำคลองที่ขนาบไปด้วยป่า บรรยากาศร่มรื่นให้เราเพลิดเพลิน ปลาตีน และสัตว์เล็กสัตว์น้อยบริเวณป่าชายเลน ใช้เวลาในลำคลอง ประมาณ 15 นาที ก่อนที่เราออกมาที่แม่น้ำอีกครั้งเพื่อกลับมาขึ้นเรือใหญ่

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน

นำท่าน เดินทางต่อไปยัง วัดหวินห์ฉ่าง (Vinh Trang) ซึ่งเป็นวัดที่ใหญ่ และโด่งดังที่สุดในจังหวัดเตียงยาง นอกจากนี้ยังเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดเตียงยาง สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1849 มีอายุมากกว่า 100 แล้ว โดยตั้งห่างออกมาจากตัวเมืองหมีเทอ ประมาณ 3 กม. สัญลักษณ์ของวัดนี้คือ พระยิ้ม หรือ Happy Buddha สถาปัตยกรรมเป็นแบบ ผสมผสานระหว่าง เวียดนาม จีน เขมร ญี่ปุ่น และโคโรเนียลแบบยุโรป โดยตัวอาคารปูนหลังใหญ่ จะมีสถาปัตยกรรมและสีสันคล้ายชิโนโปตุกิสเมื่อเดินเข้าไปยังอาคารไม้หลังเก่าด้านใน ก็จะได้บรรยากาศแบบ วัดจีนโบราณ สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางกลับ นครโฮจิมินห์

ค่ำ : บริการอาหารเย็นบนเรือ  พร้อมล่องเรือชมความงามยามราตรีสองฝากฝั่งแม่น้ำไซ่ง่อนท่านเข้าที่พัก

พักผ่อนกันตามอัธยาศัย…. (พัก โรงแรมนครโฮจิมินห์)

วันที่สาม : พิพิธภัณฑ์สงคราม – ทำเนียบเอกภาพ – Opera House – โบสถ์นอร์ทเทอดาม – ที่ทำการไปรษณีย์กลาง – ตลาดเบ๋นถั่น – กรุงเทพฯ
06.30 น. : บริการอาหารเช้า  หลังอาหารนำท่านชม พิพิธภัณฑ์สงคราม (War Remnants Museum) ภายในอาคารของพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเครื่องมือการรบ และอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ในสมัยสงครามเวียดนามมีทั้งของจีน สหรัฐอเมริกา พร้อมภาพถ่ายที่ถ่ายทอดความรู้สึกที่เกี่ยวกับการปกป้องประเทศ การเสียสละเลือดเนื้อของชาวเวียดนามหลายอย่าง ชัดเจน อาทิ ภาพการถูกทรมานด้วยวิธีการต่าง ๆ เป็นต้น ภายนอกตัวอาคารของพิพิธภัณฑ์สงครามมีเครื่องบิน และรถถังรุ่นที่ใช้ในสงครามเวียดนามของ สหรัฐอเมริกาและรัสเซีย จัดวางเรียงรายอยู่โดยรอบบริเวณพิพิธภัณฑ์  จากนั้นนำท่านชม ทำเนียบเอกภาพ ( Hoi Truong Thong Nhat ) เดิมอาคารที่ได้ตั้งอยู่ในทำเลแห่งนี้มีชื่อว่า วังโนโรโดม ซึ่งได้ก่อสร้างขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ 2411 และในช่วงที่สหรัฐ ฯ หนุนจอมเผด็จการโงดิ่นห์เหยี่ม ยึดครองภาคใต้เวียดนามวังฯ ก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นทำเนียบประธานาธิบดี เมื่อปี พ.ศ 2497 จนมาถึงปลายปี พ.ศ  2505 ทำเนียบ ฯ ก็ถูกก่อสร้างขึ้นมาใหม่โดยใช้ชื่อว่า วังเอกราช ( Doc Lap) ในช่วงสงครามนั้น สหัฐ ฯ และพรรคพวกได้ใช้เป็นศูนย์บัญชาการมาจนถึงวันที่ 30 เดือนเมษายน ปี พ.ศ 2518 ซึ่งเป็นวันที่ชาวเวียดนามได้รับชัยชนะในการต่อสู้กอบกู้ประเทศชาติมาได้ จึงได้เปลี่ยนชื่อทำเนียบ ฯ แห่งนี้มาเป็นทำเนียบเอกภาพ  ขณะนี้ในทำเนียบ ฯ ยังคงเก็บรักษาห้องต่าง ๆ ที่มีในอาคาร 5 ชั้นนี้จำนวน 100 ห้องไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้ มีทั้งห้องพัก ห้องประชุม ห้องรับแขก ห้องวางแผนยุทธศาสตร์อันหรูหรา ฯ ล ฯ ที่ยังคงไว้สภาพเดิมได้อย่างดี  โรงละครแห่งชาติ  (Opera House) โรงละครโอเปร่าเฮ้าส์ ตั้งอยู่บนถนนเลเลย สร้างในปี พ.ศ. 2402 เพื่อใช้แสดงอุปรากร แต่ได้ถูกใช้ให้เป็นสำนักงานใหญ่ของสภาแห่งชาติเวียตนามใต้ แต่ทุกวันนี้ก็ใช้งานเหมือนเดิม ทุกๆ สัปดาห์จะมีการแสดงแตกต่างกันออกไป ช่วงเวลากลางคืนชาวเวียตนามยังมีความเคลื่อนไหวอย่างร่าเริงด้วย โดยเฉพาะบริเวณลานน้ำพุ ที่จะมีชาวเวียตนามและชาวต่างชาติมานั่งพักผ่อนกันทุกคืน และสุดลานน้ำพุมองออกไปจะเป็นที่ตั้งของโรงละคร ที่ชาวเวียตนามออกเสียงว่าโรงละครยาฮดแถงห์โฝ (Nha hat Thanh Pho) ซึ่งหันหน้าออกถนนดงเค่ย ระหว่างโรงแรมคาราเวลล์และโรงแรมคอนติเนนตัล

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน  จากนั้นทำท่านชม โบสถ์นอร์ทเธอดาม ตั้งอยู่บริเวณกลางเมือง บนถนน Han Thuyen ได้รับการก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2420 ใช้ระยะเวลาการสร้าง 6 ปี โบสถ์นี้ไม่มีการประดับด้วยกระจกสีเหมือนโบสถ์คริสต์ที่อื่น เพราะได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สำหรับโบสถ์แห่งนี้ได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในเวียตนาม โดยในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากมาย ลักษณะของตัวโบสถ์เป็นรูปแบบของสมัยอาณานิคม มีหอคอยคู่สี่เหลี่ยมอยู่ด้านบนสูง 40 เมตร เป็นเอกลักษณ์ที่งดงามของโบสถ์แห่งนี้ ด้านหน้าโบสถ์มีรูปปั้นขนาดใหญ่สีขาวเด่นเป็นสง่าของพระแม่มารี นักท่องเที่ยวนิยมเข้ามาชมกันมาก เพราะเป็นเสมือนสัญลักษณ์ร่วม อันหมายถึงการเข้ามาของตะวันตก และเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของโฮจิมินห์ ที่ทำการไปรษณีย์กลาง ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองโฮจิมินห์ ใกล้กับโบสถ์นอร์ทเธอดาม ได้รับการก่อสร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2439 เสร็จในปี พ.ศ. 2444 มีการออกแบบและก่อสร้างในสไตล์ฝรั่งเศสและได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างงดงามด้วยกระจกสี เป็นไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม มีความโอ่โถงและอ่อนช้อยทว่ามั่นคง จนทำให้นักออกแบบมากมายต้องมาศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการออกแบบตกแต่งอาคารแห่งนี้ ภายในตัวอาคารมีการระดับภาพแผนที่ทางทะเลโบราณ และภาพของอดีตผู้นำประเทศโฮจิมินห์ มีการบริการทั้งการส่งจดหมาย แสตมป์เพื่อการสะสม โปสการ์ด โทรศัพท์ระหว่างประเทศ จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งชองฝากของที่ระลึกที่ ตลาดเบนถั่น ตั้งอยู่บนถนนเลเลย (Le Loi) ใกล้ๆ กับจัตุรัสโฮจิมินห์ ได้รับการก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2457 บนพื้นที่ประมาณ 1 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีหอนาฬิกาอยู่ด้านหน้าเป็นสัญลักษณ์ ตลาดแห่งนี้ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งจากคนพื้นเมืองและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะมีสินค้าจำหน่ายมากมายทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า ร้องเท้า นาฬิกา ของที่ระลึก อาหาร เครื่องเทศ ไปจนถึงอาหารสด และดอกไม้ ราคาไม่แพง

หลังอาหารนำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติ Tan Son Nhat นครโฮจิมินห์

15.00 น. : ออกเดินทางกลับประเทศไทยด้วยความประทับใจ (สายการบินแอร์เอเชีย) เที่ยวบินที่ FD655 (18.00 น. – 19.30 น.)

ค่าทัวร์รวม
1. โรงแรงระดับมาตรฐาน(ห้องละ2ท่าน)
2. (B)อาหารเช้า2มื้อ/(L)อาหารกลางวัน3มื้อ/ (D)อาหารเย็น2มื้อร้านอาหารสะอาดดูดี – รวมBuffet
3. รถปรับอากาศสภาพดีนั่งสบาย
4. ไกด์พูดไทยรู้ประวัติฯและบริการคนไทยดี/ น้ำดื่มไม่จำกัด
5. ค่าธรรมเนียมต่างๆตามรายการราคา
6. 15 ท่านได้ 1FOC (15+1 FOC)

ค่าทัวร์ไม่รวม
– ค่าใช้จ่ายส่วนตัวหรือค่าใช้จ่ายอื่นที่ไม่ได้ระบุไว้ในโปรแกรม
– Visa
– ประกันการเดินทาง
– ค่าทิปให้ไกด์และคนขับ(มารตฐานเป็นท่านละ 100 บาท / วัน)

อนื่ง
1. สำหรับเด็ก พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน (ห้องนอน 2 คน)
กรณีอายุต่ำกว่า 6 ขวบ จ่าย 75% ของค่าทัวร์
กรณีอายุ 6 ขวบ ถึง 11 ขวบจ่ายเท่ากับค่าทัวร์ผู้ใหญ่
2. สำหรับเด็ก พักกับผู้ปกครอง เสริมเตียง
กรณีอายุต่ำกว่า 6 ขวบ จ่ายเพิ่ม 70% ของค่าทัวร์
กรณีอายุ 6 ขวบ ถึง 11 ขวบ จ่าย 90% ของค่าทัวร์
3. สำหรับเด็ก พักกับผู้ปกครองไม่เสริมเตียง
กรณีอายุต่ำกว่า 6 ขวบ จ่าย 30% ของค่าทัวร์
กรณีอายุ 6 ขวบ ถึง 11 ขวบ จ่าย 50% ของค่าทัวร์
4. จำนวนสมาชิกถือว่าเป็นกรุ๊ปนั้นคือผู้ร่วมเดินทางมีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป

เงื่อนไขและข้อตกลง
– อัตราค่าบริการตั้งแต่วันที่ 01 มกราคม ถึง 28 ธันวาคม 2565 เท่านั้น และเฉพาะตลาดคนไทย ราคาใช้ไม่ได้ในช่วงวันชาติเวียดนาม 02 – 06 กันยายน 2565
– ไม่คืนเงินค่าบัตรเข้าชม ถ้าลูกทัวร์ไม่เข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ยกเว้นกรณีพายุหรือน้ำท่วม
– เมื่อเกิดเหตุเป็นสุดวิสัยจนไม่สามารถแก้ไขได้ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินในทุกกรณี
– การยกเลิก ยกเลิกก่อนเดินทาง 07 วัน (หรือในกรณีบริษัทฯ มัดจำค่าโรงแรมค่ารถต่างๆเรียบร้อย) จะไม่คืนค่ามักจำ
– บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายใดๆในกรณีเกิดเหตุสุดวิสัย เช่น การยกเลิกหรือล่าช้าของสายการบิน/ภัยธรรมชาติ/การจราจล/เหตุการณ์ทางการ เมือง และของสูญหายตามสถานที่ต่างๆซึ่งอยู่เหนือการควบคุมของบริษัทฯ
– โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยบริษัทจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ

Share on social networks