ทัวร์เวียดนาม เว้ – ดานัง – ฮอยอัน – พักบานาฮิลล์ 1 คืน

สุสานจักรพรรดิไคดิงห์ – ตลาดดองบา – ล่องเรือมื่ร้ำหอม
วัดเทียนหมู่ – พระราชวัง Dai Noi – บานาฮิลล์ – นั่งกระเช้าชมวิวเขาบานา
ห้องเก็บไวน์ – สะพานทอง Golden Bridge
ค้างคืนที่ บานาฮิลล์ Mercure French Village – สวนดอกไม้
สะพานญี่ปุ่น – นั่งเรือกระด้งเที่ยวชมแม่น้ำเกิมแทง Cam Thanh
สะพานมังกร – สะพานแห่งความรัก – วัดลินห์อึ๋ง – ตลาดฮาน
(พักโรงแรม บานาฮิลล์ 1 คืน , เมืองเว้ 1 คืน และ เมืองดานัง 1 คืน)

วันแรก : เมืองเว้ – สุสานจักรพรรดิไคดิงห์ – ตลาดดองบา – ล่องเรือมื่ร้ำหอม
เช้า : เจ้าหน้าที่ต้อนรับคณะ ฯ ที่สนามบินนานาชาติ ดานัง (เที่ยวบินที่  VZ964  09.00 – 10-40)   ออกเดินทางสู่ เมืองเว้ เป็นเมืองเก่าของเวียดนามในสมัยที่ปกครองด้วยกษัตริย์ (เวียดนามและชาติตะวันตกจะใช้คำว่า Emperor หรือจักรพรรดิ) กษัตริย์ในราชวงศ์เหงียนทุกพระองค์ ตั้งแต่องค์ที่ 1 ถึงองค์ที่ 13 จะประทับอยู่ที่พระราชวังแห่งนี้ เป็นเวลานานถึง 150 ปี เว้จึงมีชื่อว่าเป็นเมืองของกษัตริย์ และเป็นที่มาของต้นแบบทางวัฒนธรรมของเวียดนาม

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน  จากนั้น นำท่านชม   สุสานจักรพรรดิไคดิงห์ (Tomb of Khai Dinh) เป็นสุสานจักรพรรดิที่สร้างอยู่บนเนินเขา และเป็นสุสานเพียงแห่งเดียวของเวียดนามที่มีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันออกกับสถาปัตยกรรมตะวันตก สานแห่งนี้เป็นสุสานเดียวที่มีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันออกกับสถาปัตยกรรมตะวันตก สมเด็จพระจักรพรรดิไคดิงห์เป็นพระจักรพรรดิลำดับก่อนสุดท้ายของเวียดนาม ผู้ซึ่งครองราชย์ตั้งแต่ปี 1916 ถึงปี 1925 เนื่องจากองค์จักรพรรดิไคดิงห์ทรงเป็นจักรพรรดิในราชวงศ์เหงียนพระองค์เดียวที่ได้เดินทางไปประเทศฝรั่งเศส สุสานแห่งนี้สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดี โดยใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 11 ปี พระเจ้าไคดิงห์เป็นพระบิดาบุญธรรมของพระเจ้าเบ๋าได่ พระจักรพรรดิพระองค์สุดท้ายของราชวงค์เหงียน จากนั้นนำท่านเลือกซื้อของฝากของที่ระลึกจากเมืองเว้ ที่ ตลาดดองบา ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเว้ ท่านสามาถหาซื้อสินค้าทุกอย่างได้ที่นี่

เย็น : บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่าน ล่องเรือมังกร หรือเรือเสมือนเรือพระที่นั่งของกษัตริย์ในอดีต พร้อมฟังดนตรีพื้นเมืองเว้ ล่องไปตามแม่น้ำเฮียงยางหรือแม่น้ำหอม ให้ท่านไปชมวิวทิวทัศน์ของสองฝั่งแม่น้ำที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนแบบเวียดนามสมัยก่อนที่ยังคงเอกลักษณ์รูปแบบเดิมไว้ ตลอดจนวิถีชีวิตของชาวพื้นเมืองสองฝั่งแม่น้ำที่

ที่พัก : พักผ่อนกันตามสบาย… (พัก โรงแรมเมืองดาเว้)

วันที่สอง : วัดเทียนหมู่ – พระราชวัง Dai Noi – บานาฮิลล์ – นั่งกระเช้าชมวิวเขาบานา – ห้องเก็บไวน์ – สวนดอกไม้ – สะพานทอง Golden Bridge – ค้างคืนที่ บานาฮิลล์ Mercure French Village
เช้า : บริการอาหารเช้า จากนั้นท่านเดินทางสู่ วัดเทียนมู่ วัดชื่อดังของเมืองเว้ ศูนย์กลางทางพุทธศาสนานิกายเซน โดดเด่นด้วยเจดีย์ทรงเก๋ง 8 เหลี่ยมแบบจีน ลดหลั่นกันลงมาทั้งหมด 7 ชั้น โดยแต่ละชั้นแทนชาติภพต่างๆ ของพระพุทธเจ้า นอกจากนั้นยังมีศิลาจารึก ระฆังสำริดขนาดใหญ่มีน้ำหนักถึง 2000 กิโลกรัม รวมถึงรูปปั้นเทพเจ้า 6 องค์ คอยปัดเป่าความชั่วร้ายออกไปจากวัด วัดแห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และการเมืองเวียดนามด้วยเช่นกัน เมื่อปี พ.ศ. 2506 เจ้าอาวาสของวัดได้ขับรถออสตินสีฟ้าไปเผาตัวเอง ณ กรุงไซ่ง่อนหรือเมืองโฮจิมินห์ในปัจจุบัน เพื่อประท้วงการบังคับให้ประชาชนไปนับถือศาสนาคริสต์ และใช้ความรุนแรงขัดขวางการฉลองวันวิสาขบูชาของประชาชนชาวเวียดนาม หากไปวัดแห่งนี้ท่านจะได้เห็นรถออสตินสีฟ้าคันดังกล่าวจัดแสดงอยู่ภายในวัด  ท่านเดินทางสู่ พระราชวังไดโน่ย (Dai Noi) สร้างตามความเชื่อแบบจีน โดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส เป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง ซึ่งจำลองแบบมาจากพระราชวังกู้กงหรือพระราชวังต้องห้ามที่ยิ่งใหญ่ของกรุงปักกิ่งประเทศจีน และการก่อสร้างพระตำหนักต่างๆ รวมถึงกำแพงโดยรอบของพระราชวังทั้งหมดได้นำอิฐมาจากประเทศฝรั่งเศสโดยการขนส่งจากทางเรือ คำว่าพระราชวังต้องห้าม กล่าวว่าภายในพระตำหนักชั้นในสุด จะเป็นเขตพระราชฐานสำหรับราชวงศ์เท่านั้น ห้ามบุคคลที่ไม่ใช่เครือญาติของกษัตริย์เข้าไปเด็ดขาด หรือหากเข้าไปแล้วก็จะไม่มีสิทธิ์ออกมาภายนอกได้ คนทั่วไปจึงเรียกพระราชวังแห่งนี้ว่าพระราชวังต้องห้าม เหมือนกับที่คนจีนเรียกพระราชกู้กงว่าพระราชวังต้องห้ามเช่นเดียวกัน พระราชวังไดโน่ย มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ล้อมรอบด้วย  คูน้ำขนาดใหญ่ทั้งสี่ด้าน พระราชวังแห่งนี้ใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์ในราชวงศ์เหงียนมาทุกพระองค์ ตั้งแต่จักรพรรดิยาลอง องค์ที่ 1 จนถึง องค์ที่ 13 จักรกรพรรดิเบ่าได๋ กษัตริย์องค์สุดท้าย ซึ่งทรงสละอำนาจให้กับรัฐบาลของประธานาธิบดีโงดินห์เดียม เมื่อปี พ.ศ. 2488 ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ 8 ของราชวงศ์จักรี

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ  ร้านอาหาร จากนั้น นำท่านเดินทางสู่เมืองตากอากาศขึ้นชื่อแห่งดานัง บานาฮิลล์ แหล่งท่องเที่ยวตากอากาศที่มีมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยได้เกิดแนวคิดการสร้างบ้านพักและโรงแรมจากชาวฝรั่งเศส ในสมัยอาณานิคมตั้งแต่ปี 1919 หลังจากจบสงครามฝรั่งเศสได้พ่ายแพ้และเดินทางออกจากเวียดนามเพื่อกลับประเทศ ทำให้บานาฮิลล์ถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานาน ปัจจุบันรัฐบาลเวียดนามได้กลับมาบูรณะเป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศแห่งนี้อีกครั้ง  พร้อมกับได้มีการสร้าง กระเช้าลอยฟ้า ที่มีความสูงถึง 5,801 จากระดับน้ำทะเล เพื่อใช้เป็นเส้นทางสำหรับขึ้นไปยังยอดเขา

นำท่านเดินชม สะพานโกเด้นบริดจ์ (Golden Bridge) สะพานลอยฟ้าในอุ้งมือยักษ์ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่พึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมได้ไม่นานมานี้ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,400เมตร ความยาว 150เมตร โค้งไปตามแนวเขา จุดเด่นคือสะพานถูกทอดผ่านอุ้งมือหินขนาดยักษ์สองมือ ผู้ออกแบบจะทำให้รู้สึกราวกับว่ากำลังเดินอยู่บนเส้นด้ายสีทองที่ทอดอยู่ในหัตถ์ของเทพ อิสระให้ท่านได้ถ่ายภาพและชมวิวทิศทัศน์

นำท่านเข้าชม อุโมงค์เก็บไวน์ บนยอดเขาบานาฮิลล์ เป็นสถานที่เก็บไวน์ที่มีความลึกลงไปถึง 100 เมตร ภายในอุโมงค์ จะมีอุณหภูมิอยู่ที่ 16 ถึง 20 องศา ว่ากันว่าเป็นอุณหภูมิที่ดีสำหรับการบ่มไวน์   ผจญภัยที่ สวนสนุก The Fantasy Park (ราคาทัวร์รวมค่าเครื่องเล่นภายในสวนสนุกทุกเครื่องเล่น ยกเว้นพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง และเครื่องเล่นที่ใช้ระบบหยอดเหรียญ) เครื่องเล่นในสวนสนุกของบานาฮิลล์ มีหลากหลายรูปแบบมีให้ท่านเลือก อาทิ เช่น โรงภาพยนต์ 4D โลกของไดโนเสาร์ รถไฟเหาะแมงมุมที่ชวนให้ทุกท่านระทึกขวัญไปกับเครื่องเล่น รถราง บ้านผีสิง และอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีร้านช้อปปิ้งให้ท่านได้เลือกซื้อของที่ระลึกภายในสวนสนุกอีกด้วย หากท่านไม่ประสงค์ หรืออิสระเล่น รถราง หรือ Alpine coaster เครื่องเล่นขึ้นชื่อของประเทศเวียดนาม เป็นรถไฟเหาะขนาดเล็ก ไม่อันตรายและไม่หวาดเสี่ยวจนเกินไป เป็นรถไฟเหาะที่บังคับด้วยมือ จะไปช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับการควบคุมของเราเอง

เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารบนบานาฮิลล์ อาหารบุฟเฟ่ต์

ที่พัก : โรงแรม Mercure French Village Bana Hills ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

*ห้องพักบนบานาฮิลล์มีหลายตึก ซึ่งการตกแต่งห้องพักแต่ละตึกจะแตกต่างกันออกไป สามารถทราบได้ว่าพักตึกไหน ณ วันที่เช็คอินเท่านั้น ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถความคุมการจัดการห้องพักดังกล่าวได้ เนื่องจากสิทธิ์ในการจัดการห้องพักทั้งหมดขึ้นอยู่กับโรงแรม Mercure French Village Bana Hills เท่านั้น*

วันที่สาม : บานาฮิลล์ – สวนดอกไม้ – วัดลินห์อื๋ง – ออกเดินทางเข้าสู่ ฮอยอัน – สะพานญี่ปุ่น – เมืองฮอยอัน – นั่งเรือกระด้งเที่ยวชมแม่น้ำเกิมแทง Cam Thanh
เช้า : บริการอาหารเช้า จากนั้น นำท่านเดินชม สวนดอกไม้ LE JARDIN D’AMOUR สวนดอกไม้สไตล์ฝรั่งเศส ที่มีดอกไม้หลากหลายพันธุ์ถูกจัดเป็นสัดส่วนอย่างสวยงาม ที่มีมุมถ่ายรูปน่ารักๆ ให้ท่านได้เลือกถ่ายได้ตามใจชอบ จากนั้นนำทุกท่านได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งตำนานและจินตนาการของการ จากนั้น นำท่านไหว้พระขอพรที่ วัดลินห์อื๋ง พระพุทธรูปขนาดใหญ่บนยอดเขาบานาฮิลล์  หนึ่งในสาม วัดลินห์อื๋งศักดิ์สิทธิ์ ที่คอยปกปักรักษาชาดานังมาเป็นเวลานาน ได้เวลาสมควรนำท่านนั่งกระเช้าลงจากบานาฮิลล์

เที่ยง : บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร  จากนั้นนำท่านเดินทางสู่  เมืองโบราณฮอยอัน นำชม บ้านเลขที่ 101 นับเป็นบ้านที่เก่าแก่และอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์สวยงามที่สุดในเมืองฮอยอัน บ้าน 2 ชั้นที่โดดเด่นทางสถาปัตยกรรม ภายในถูกแบ่งสัดส่วนการใช้งานไว้อย่างลงตัวตามแบบฉบับชาวจีนดังเดิม เป็นบ้านประจำตะกูล Tan Ky ถูกสร้างมานานกว่า 75 ปี และตกทอดกันมาถึง 5 รุ่น  เที่ยวชม สะพานญี่ปุ่น (Japanese Covered Bridge) ถูกสร้างขึ้นมาแล้วกว่า 400 ปี สะพานมีลักษณะโค้งแบบสถาปัตยกรรมญี่ปุ่น หลังคามุงกระเบื้องสีเขียวและเหลืองเป็นคลื่นสวยงาม เดินเข้าไปกลางสะพานนำท่านสักการะ ศาลกวนอู และเมื่อข้ามสะพานมายังอีกฝั่งหนึ่ง ท่านจะพบเห็นบ้านเรือนเก่าแก่สไตล์ญี่ปุ่นแท้ที่ทาสีเหลืองทั้งเมืองอย่างเป็นเอกลักษณ์ ตลอดทางเดินจะมีร้านค้าขายของที่ระลึกมากมายริมสองฝั่งถนนให้ท่านได้เลือกซื้อเลือกชมตามอัธยาศัย เดินเข้ามาไม่ไกลจากสะพานญี่ปุ่นนักจะพบกับ วัดฟุกเกี๋ยน หรือสมาคมชาวจีนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของเมืองฮอยอัน เป็นศูนย์รวมของชาวจีนที่อพยพเข้ามาในช่วงปี พ.ศ.2388-2428 จะเห็นได้จากบ้านเก่าแก่ประจำตระกูลกว่า 20 หลัง ปัจจุบันใช้เป็นที่พบปะของคนหลายรุ่น และเป็นศูนย์กลางของการเที่ยวชมเมืองโบราณฮอยอัน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านเกิมแทง นำท่านสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในเมืองฮอยอัน ในช่วงสมัยสงครามนั้นจะเป็นที่พักของเหล่าทหารหาญ ในปัจจุบันอาชีพหลักของคนที่นี่จะประกอบอาชีพทำประมงเป็นหลัก หลังจากนั้นนำท่านทำกิจกรรม ล่องเรือกระด้ง ท่านจะได้รับชมวัฒนธรรมอันสวยงามของชาวท้องถิ่น และระหว่างที่ล่องเรือกระด้งอยู่นั้นชาวบ้านที่นี้ก็จะมีการขับร้องพลงพื้นเมือง และนำไม้พายเรือมาเคาะเพื่อประกอบเป็นจังหวะดนตรี

เย็น : รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

ที่พัก : พักผ่อนกันตามสบาย… (พัก โรงแรมเมืองดานัง)

วันที่สี่ : สะพานมังกร – สะพานแห่งความรัก – วัดลินห์อึ๋ง – ตลาดฮาน – สนามบินดานัง – กรุงเทพฯ
เช้า : บริการอาหารเช้า นำท่านชม สะพานมังกร สะพานข้ามแม่น้ำสายหลักของเมืองอย่าง แม่น้ำฮาน ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญด้านเศรฐกิจ และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองดานัง เป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นฟูประเทศและเศรษฐกิจ สะพานมังกรมีความยาว 666 เมตร และความกว้าง 37.5 เมตร มีถนน 6 ช่องจราจร โดยได้เปิดใช้งานตั้งแต่ปี 2013 ด้วยสถาปัตยกรรมที่บวกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานเก่าแก่ของเวียดนามเมื่อกว่าหนึ่งพันปีมาแล้ว ห่างจากสะพานมังกรไม่ไกลนักท่านสามารถเดินไปยัง สะพานแห่งความรัก สะพานที่ถูกตกแต่งด้วยเสารูปหัวใจทอดยาวลงสู่แม่น้ำฮาน เมื่อเดินลงไปท่านจะสามารถเห็นวิวของสะพานมังกรได้อย่างสวยงาม รวมไปถึงในบริเวณนั้นจะมี รูปปั้นปลามังกรพ่นน้ำ ที่ถือได้ว่าเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองดานังเคียงคู่ไปกับสะพานมังกร อิสระท่านถ่ายภาพเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย นำท่านสู่ วัดลินห์อึ๋ง เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของเมืองดานัง ภายในวิหารแห่งนี้เป็นสถานที่บูชาเจ้าแม่กวนอิมและเทพเจ้าองค์ต่างๆ ตามความเชื่อของชาวพื้นเมืองแถบนี้ นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นปูนของเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ มีความสูงถึง 67 เมตร ซึ่งตั้งอยู่บนฐานดอกบัวกว้างถึง35 เมตร มีความเชื่อที่ว่าคอยปกปักรักษาและคุ้มครองชาวประมงยามที่ออกไปหาปลานอกชายฝั่ง วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีคนให้ความเคารพและเข้ามาสักการะเป็นจำนวนมาก นำท่านเดินเที่ยวช้อปปิ้งใน ตลาดฮาน แหล่งรวบรวมสินค้ามากมายเป็นที่นิยมทั้งชาวเวียดนามและชาวไทย สินค้าที่โดเด่นคือ งานหัตถกรรม เช่น ภาพผ้าปักมืออันวิจิตร โคมไฟ กระเป๋าปัก ตะเกียบไม้แกะสลัก ชุดอ๋าวหย่าย (ชุดประจำชาติเวียดนาม) และนอกจากนั้นยังมีสินค้าอีกมากมายให้ท่านได้เลือกซื้อ เช่น เสื้อเวียดนาม ของสด ของแห้ง เสื้อผ้า กาแฟ สินค้าที่ระลึก หมวก รองเท้า กระเป๋า รวมถึงสินค้าพื้นเมือง ท่านจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวเวียดนามในปัจจุบันได้อย่างแท้จริง อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากและถ่ายภาพตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควรนำท่านออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติดานัง เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย

12.00 น. : เดินทางสู่ ท่าอากาศยานดอนเมือง โดย สายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD637 (12.00-13.20)

ค่าทัวร์รวม
1. โรงแรงระดับมาตรฐาน(ห้องละ2ท่าน)
2. (B)อาหารเช้า 3 มื้อ /(L)อาหารกลางวัน4 มื้อ/ (D)อาหารค่ำ 3 มื้อ ร้านอาหารสะอาด ดูดี
3. รถปรับอากาศสภาพดี นั่งสบาย
4. ไกด์พูดไทย รู้ประวัติ ฯ และบริการคนไทยดี
5. น้ำดื่มไม่จำกัด
6. ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ตามรายการราคา
7. 15 ท่านได้ 1FOC (15+1 FOC)

ค่าทัวร์ไม่รวม
– ค่าใช้จ่ายส่วนตัว หรือ ค่าใช้จ่ายอื่น ที่ไม่ได้ระบุไว้ในโปรแกรม
– Visa
– ประกันการเดินทาง
– ค่าทิปให้ไกด์และคนขับ( มารตฐานเป็น ท่านละ 100 บาท/วัน)

อนื่ง
1. สำหรับเด็ก พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน (ห้องนอน 2 คน)
กรณีอายุต่ำกว่า 6 ขวบ จ่าย 75% ของค่าทัวร์
กรณีอายุ 6 ขวบ ถึง 11 ขวบจ่ายเท่ากับค่าทัวร์ผู้ใหญ่
2. สำหรับเด็ก พักกับผู้ปกครอง เสริมเตียง
กรณีอายุต่ำกว่า 6 ขวบ จ่ายเพิ่ม 70% ของค่าทัวร์
กรณีอายุ 6 ขวบ ถึง 11 ขวบ จ่าย 90% ของค่าทัวร์
3. สำหรับเด็ก พักกับผู้ปกครองไม่เสริมเตียง
กรณีอายุต่ำกว่า 6 ขวบ จ่าย 30% ของค่าทัวร์
กรณีอายุ 6 ขวบ ถึง 11 ขวบ จ่าย 50% ของค่าทัวร์
4. จำนวนสมาชิกถือว่าเป็นกรุ๊ปนั้นคือผู้ร่วมเดินทางมีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป

เงื่อนไขและข้อตกลง
– อัตราค่าบริการตั้งแต่วันที่ 01 มกราคม ถึง 28 ธันวาคม 2563 เท่านั้น และเฉพาะตลาดคนไทย ราคาใช้ไม่ได้ในช่วงวัน
– ชาติเวียดนาม 02 – 06 กันยายน 2563
– ไม่คืนเงินค่าบัตรเข้าชม ถ้าลูกทัวร์ไม่เข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ยกเว้นกรณีพายุหรือน้ำท่วม
– เมื่อเกิดเหตุเป็นสุดวิสัยจนไม่สามารถแก้ไขได้ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินในทุกกรณี
– การยกเลิก ยกเลิกก่อนเดินทาง 07 วัน (หรือในกรณีบริษัทฯ มัดจำค่าโรงแรมค่ารถต่างๆเรียบร้อย) จะไม่คืนค่ามักจำ
– บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายใดๆในกรณีเกิดเหตุสุดวิสัย เช่น การยกเลิกหรือล่าช้าของสายการบิน/ภัยธรรมชาติ/การจราจล/เหตุการณ์ทางการ เมือง และของสูญหายตามสถานที่ต่างๆซึ่งอยู่เหนือการควบคุมของบริษัทฯ
– โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยบริษัทจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ

 

Share on social networks